Audrey Fernandes
Audrey.fernandes@edelman.com
สตาร์ทอัพใหม่จาก VentureOne ของสภาวิจัยเทคโนโลยีขั้นสูง (Advanced Technology Research Council/ATRC) จะใช้ AI และหุ่นยนต์อัตโนมัติเพื่ออนุรักษ์ระบบนิเวศธรรมชาติ โดยเริ่มจากป่าชายเลนและขยายไปยังแหล่งที่อยู่อาศัยอื่น ๆ
VentureOne ของสภาวิจัยเทคโนโลยีขั้นสูง (Advanced Technology Research Council/ATRC) เปิดตัว Nabat ในงานประชุมการอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าชายเลนนานาชาติที่จัดขึ้นในอาบูดาบี ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนด้านเทคโนโลยีสภาพอากาศแห่งใหม่ที่จะอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าชายเลนและระบบนิเวศอื่น ๆ ทั่วภูมิภาคโดยใช้ AI และหุ่นยนต์
Nabat ได้จัดแสดงเทคโนโลยีขั้นสูงของบริษัท ซึ่งรวมถึงโดรนที่ขับเคลื่อนด้วยซอร์ฟแวร์ AI และมาพร้อมกับกลไกเพาะปลูกแบบยืดหยุ่น ซึ่งจะนำไปใช้ในการอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าชายเลนหลายพันเฮกตาร์ทั่วสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ในอีกเจ็ดปีข้างหน้า ป่าชายเลนนั้นจะกักเก็บคาร์บอนมากกว่าต้นไม้ในป่าฝนถึงห้าเท่า ทั้งยังเป็นส่วนประกอบสำคัญของระบบนิเวศของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และเป็นส่วนสำคัญในการต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของโลกอีกด้วย
“Nabat ได้แสดงให้เห็นว่าสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์จะสามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีขั้นสูงเพื่อประโยชน์ของมนุษยชาติได้อย่างไร” ฯพณฯ Faisal Al Bannai เลขาธิการสภาวิจัยเทคโนโลยีขั้นสูง (ATRC) กล่าว “เราสามารถขับเคลื่อนความพยายามในการฟื้นฟูระบบนิเวศ เพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพ และเสริมสร้างความสามารถในการรับมือสภาพอากาศเพื่อเร่งเส้นทางสู่เป้าหมายเพื่อลดการปล่อยก๊าซในประเทศของเราให้เป็นศูนย์ได้ด้วยการผสานนวัตกรรมเข้ากับวิทยาศาสตร์”
“ผู้คนมักมองว่าเทคโนโลยีกับธรรมชาติเป็นสองสิ่งที่ไม่ลงรอยกัน แต่เมื่อเราผสานเทคโนโลยีเข้ากับการวิจัยตามหลักวิทยาศาสตร์เพื่อแก้ปัญหาสำคัญ ๆ เทคโนโลยีก็สามารถกลายเป็นหนึ่งในพันธมิตรที่ทรงพลังของธรรมชาติได้” ดร. Najwa Aaraj ซีอีโอของ Technology Innovation Institute ซึ่งเป็นหน่วยงานวิจัยประยุกต์ของ ATRC และผู้พัฒนาเทคโนโลยีที่อยู่เบื้องหลัง Nabat กล่าว “ระบบของเราช่วยแก้ไขปัญหาในการอนุรักษ์ได้หลายประการ และหนึ่งในประการสำคัญก็คือการเก็บรวบรวมข้อมูล ไม่มีระบบนิเวศใดที่เหมือนกัน ดังนั้น แต่ละระบบนิเวศจึงจำเป็นต้องใช้แนวทางที่ออกแบบให้เหมาะสมกับระบบนิเวศโดยใช้ข้อมูลสนับสนุน
ระบบ AI และหุ่นยนตร์ของ Nabat ช่วยจัดทำแผนที่ หว่านเมล็ดพันธุ์ และช่วยตรวจสอบได้อย่างแม่นยำ จึงช่วยให้มั่นใจได้ว่าการอนุรักษ์และฟื้นฟูจะได้รับการออกแบบตามความต้องการเฉพาะและความซับซ้อนของระบบนิเวศแต่ละแห่ง โดยระบบของ Nabat จะแตะต้องแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ให้น้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ซึ่งจะต่างจากการปลูกป่าชายเลนแบบดั้งเดิมที่ต้องใช้แรงงานมากและอาจทำอันตรายต่อระบบนิเวศโดยรอบได้
เทคโนโลยีของ Nabat จะช่วยมอบข้อมูลด้านดิน รวมถึงความหนาแน่น ระดับความสูง และอุทกวิทยาของแหล่งที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติได้เป็นจำนวนมากในระหว่างขั้นตอนการจัดทำแผนที่ โดยกลไกหว่านเมล็ดพันธุ์ของโดรนจะใช้การวางแผนวิถีที่เหมาะสมที่สุดและรูปแบบการหว่านเมล็ดที่ยืดหยุ่นเพื่อให้แน่ใจว่าจะสามารถหว่านเพาะเมล็ดพันธุ์ได้อย่างแม่นยำและหว่านเพาะเมื่อจำเป็นเท่านั้น นอกจากนี้ ระบบยังมาพร้อมความสามารถในการช่วยให้แน่ใจว่าต้นไม้ที่ปลูกจะเติบโตอย่างปลอดภัยด้วย
เทคโนโลยีของ Nabat ทำงานได้แม้ในพื้นที่ห่างไกลที่เข้าถึงได้ยาก ช่วยให้ความพยายามในการอนุรักษ์และฟื้นฟูสามารถไล่ระดับได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะที่ช่วยลดต้นทุนให้เหลือน้อยที่สุด
Reda Nidhakou รักษาการ CEO ของ VentureOne บริษัทแม่ของ Nabat กล่าวว่า “จิตวิญญาณของ VentureOne คือการเปิดตัวสตาร์ทอัพที่นำเทคโนโลยีล้ำสมัยมาสู่โลก เพราะเทคโนโลยีที่มีคุณค่าที่สุดไม่เพียงแต่เป็นนวัตกรรม มีประสิทธิภาพ หรือสร้างกำไรเท่านั้น แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องสร้างผลกระทบเชิงบวกที่สามารถวัดผลได้ด้วย ถือเป็นอภิสิทธิ์อย่างยิ่งที่ได้ร่วมงานอย่างใกล้ชิดกับทีมงานและระบบนิเวศน์ที่กว้างขึ้นของเราในการมีส่วนสนับสนุนเส้นทางสู่ความยั่งยืนของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ลักษณะพื้นฐานเช่นนี้”
แม้ว่าในช่วงแรกบริษัทจะเน้นที่ป่าชายเลนในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แต่บริษัทก็มีแผนที่จะขยายไปยังพื้นที่อื่น ๆ ในภูมิภาคและให้บริการระบบนิเวศอื่น ๆ เพิ่มเติม รวมถึงพื้นที่ทะเลทราย พื้นที่เกษตรกรรม ป่าไม้ และแนวปะการังอีกด้วย
เนื้อหาใจความในภาษาต้นฉบับของข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้เป็นฉบับที่เชื่อถือได้และเป็นทางการ การแปลต้นฉบับนี้จึงมีจุดประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกเท่านั้น และควรนำไปเทียบเคียงอ้างอิงกับเนื้อหาในภาษาต้นฉบับ ซึ่งเป็นฉบับเดียวที่มีผลทางกฎหมาย
Audrey Fernandes
Audrey.fernandes@edelman.com